เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยในวันที่ 16 ตุลาคม 2557 สำหรับ iPad Air 2 และ iPad Mini 3 วันนี้ทางเว็บไซต์ของเราจึงได้นำข้อมูลสรุปว่ามีอะไรที่เพิ่มเข้ามาใหม่บ้างสำหรับ iPad Air 2 และ iPad Mini 3 ที่ทำให้มันต่างจาก iPad ตัวเดิม
มีอะไรใหม่ใน iPad air 2
1. โครงสร้างวัสดุ
- ปรับเปลี่ยนดีไซน์เหมือนกับ iPhone 6
- บางขึ้นกว่าเดินถึง 18 % ทำให้เหลือความบางอยู่ที่ 6.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง 0.43 กิโลกรัม
- ลดช่องว่างระหว่างจอ LCD กับส่วน Touch Layer ลง
- เพิ่มฟิล์มลดแสงสะท้อน ลดการสะท้อนแส้ง 56 %
- เพิ่ม Touch ID
- เพิ่มสีทองเข้ามา
2. หน่วยปรมวลผล
- หน่วยประมวลผล Apple A8X และ Apple M8
3. กล้องหลัง
- กล้องหลังเพิ่มเป็น 8 ล้านพิกเซล
- เซ็นเซอร์ที่ 1.12 ไมครอน
- ค่ารูรับแสงที่ f/2.4
- รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1080p
- รองรับการถ่ายภาพในแบบ Burst Shot
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Timelapse และ Slo-mo Video ที่ความเร็ว 120 เฟรม/วินาที
4. กล้องหน้า
- ใช้เซ็นเซอร์รูปแบบใหม่ มีค่ารับแสงที่ f/2.2 ทำให้ภาพสว่างขึ้น 81%
- ฟังก์ชั้นใหม่ๆ เช่น Burst Selfie, Single HDR Shot for Selfie และ HDR Video
5. การเชื่อมต่อ
- Wi-Fi รูปแบบใหม่ นั่นก็คือ Wi-Fi 802.11ac with MIMO ความเร็วได้สูงกว่ารุ่นเดิมถึง 2.8 เท่า หรือ 866 Mbps
- รองรับเครือข่าย LTE Cat-6 ที่ความเร็วสูงสุด 150 Mbps
1. โครงสร้างวัสดุ
- ปรับเปลี่ยนดีไซน์เหมือนกับ iPhone 6
- เพิ่ม Touch ID
- เพิ่มสีทองเข้ามา
- ไมโครโฟนแบบ dual microphone
2. หน่วยปรมวลผล
- ยังใช้หน่วยประมวลผล Apple A7 เหมือน iPad mini 2
3. กล้องหลัง
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล
- ฟังก์ชันค้ลายๆ iPad Air 2 แต่ไม่มีฟังก์ชัน Slo-mo Video กับ Burst Mode
4. กล้องหน้า
- FaceTime HD camera
- เพิ่มโหมด panorama และ Time-lapse
5. การเชื่อมต่อ
- Wi-Fi รูปแบบใหม่ นั่นก็คือ Wi-Fi 802.11ac with MIMO ความเร็วได้สูงกว่ารุ่นเดิมถึง 2.8 เท่า หรือ 866 Mbps
- รองรับเครือข่าย LTE Cat-6 ที่ความเร็วสูงสุด 150 Mbps