LTE ย่อมาจาก Long term Evolution LTE เป็นหนึ่งมาตรฐานจากกลุ่ม The Third Generation Partnership Project (3GPP) ซึ่งความหมายเดิมทางวิศวกรรมของ LTE นั้นจริงๆก็คือยุค 3.9G แต่ในต่างประเทศบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ-โอเปอเรเตอร์ก็มักจะเรียกแทนให้ LTE เป็น 4G นั่นเอง ซึ่งคำว่า 4G นี่แหละครับที่เป็นส่วนเสริมจุดขายทางการตลาด เนื่องจากให้รู้สึกว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่กว่า 3G นั่นเอง
LTE คือ เทคโนโลยีการส่งข้อมูลที่ให้ความเร็วเหนือกว่า 3G ในปัจจุบันถึง 10 เท่า ซึ่งถือเป็นการพัฒนาการอีกขั้นต่อจาก 3G รวมไปถึงได้ถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานของ GSM, GPRS,EDGE และ WCDMA รวมถึง HSPA อีกด้วย
โดยเทคโนโลยี LTE นั้นมีความสามารถในการส่งถ่ายข้อมูลและมัลติมีเดียสตรีมมิ่งที่มีความเร็วอย่างน้อย 100 Mbps และมีความเร็วสูงสุดถึง 1 Gbps ทำให้เทคโนโลยี 4G นั้นสามารถตอบสนองการใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตไร้สายให้ดีขึ้น ทำให้เรานั้นสามารถส่งรับข้อมูลได้รวดเร็วกว่าเดิม และสามารถใช้โปรแกรมมัลติมีเดียได้อย่างเต็มที่ เช่น การสนทนาผ่านโปรแกรม Video Conference ในระดับความคมชัดแบบ HD, ดูหนังออนไลน์หรือฟังเพลงไม่สะดุด และยังสามารถอัพโหลดหรือดาวน์โหลดข้อมูลที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ๆได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ประเภทของ 4G LTE
โดยคุณสมบัติของ 4G LTE นั้นจะกระจายสัญญาณบนความถี่ 1800 MHz และ 2300 MHz (20 ช่องสัญญาณ) ซึ่งตามทฤษฎี 4G LTE แบ่งเป็น 2 ชื่อมาตรฐาน คือ
- 4G LTE ที่สามารถอัพโหลด 50 Mbps และดาวน์โหลด 100 Mbps
- LTE Advance ที่สามารถอัพโหลด 500 Mbps และดาวน์โหลด 1Gbps
เทคโนโลยี 4G ในบ้านเรา
ถ้าพูดถึงเรื่อง สัญญาณ 4g ในบ้านเรา ปัจจุบันนั้นก็ได้มีผู้ให้บริการรายใหญ่อยู่ 3 ค่ายหลัก เช่น AIS TRUE หรือ DTAC แต่เนื่องจากแอดมินได้ใช้งานค่าย AIS ดังนั้นจึงจะนำข้อมูล 4G Advance ของทาง AIS มาเล่าให้ฟังละกันครับ
หากพูดถึง AIS 4G ADVANCED เชื่อว่าเพื่อนๆคงเคยได้ยินผ่านหูมากันบ้างแล้ว เพราะทาง AIS นั้นได้มีการเปิดตัวแพ็คเกจให้บริการพื้นที่ 4g ในเชิงพาณิชย์ ทั้งบนคลื่น 1800MHz และ 2100MHz พร้อมแนะนำเทคโนโลยี LTE-Advanced (2100MHz + 1800MHz) มาเมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมานั่นเองนั่นเอง โดยเครือข่าย AIS 4G Advanced จะทำงานบนเครือข่าย LTE-FDD Band 3 (1800 MHz) ดังนั้นอุปกรณ์ที่รองรับต้องรองรับ LTE Band 3 ด้วยถึงสามารถใช้งานได้ ยกตัวอย่างหากเพื่อนๆใช้ iPhone อยู่ก็จะเป็น iPhone 5 ขึ้นไปที่สามารถใช้งาน AIS 4G Advanced ได้นั่นเอง
โดยจากที่แอดมินได้ทำการทดสอบความเร็วเน็ต 4g ของ AIS 4G Advance เปิดเว็บ หรือใช้งานแอพพลิเคชันทั่วไป ผลที่ได้คือสามารถตอบสนองได้รวดเร็วพอสมควรเลยล่ะครับ กดปุ๊ป ขึ้นปั๊บ และไม่มีการหน่วงเวลาโหลดหน้าเว็บให้เห็นแม้แต่น้อย ส่วนการชมภาพยนตร์หรือชมการถ่ายทอดสดบนมือถือด้วยภาพคุณภาพสูงระดับ HD (High Definition) ก็สามารถชมได้อย่างต่อเนื่องไม่มีอาการสะดุดให้เห็นแต่อย่างใด ที่สำคัญคือเราสามารถดาวน์โหลดไฟล์เอกสารใหญ่ๆ หรือแอพพลิเคชัน หรือเกมส์ ลงเครื่องได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งหากเพื่อนๆกำลังมองหา 4g ค่ายไหนดี 4g ค่ายไหนเร็ว และครอบคลุมในหลายๆพื้นที่อยู่ล่ะก็ AIS ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยล่ะครับ
ซึ่งนอกจากเทคโนโลยี LTE แล้วในปัจจุบันยังมีอีก 2 เทคโนโลยีที่ถูกนำมาทดลองใช้เหมือนกันคือ UMB (Ultra Mobile Broadbrand) ที่พัฒนามาจากมาตรฐาน CDMA2000 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในยุค 3G นั่นเองและ WiMax (Worldwide Interoperability for Microwave Access) เป็นเทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง โดยพัฒนามาจากมาตรฐาน IEEE 802.16 ซึ่งเป็นมาตราฐานเดียวกันกับ Wi-Fi แต่มาตรฐาน Wimax สามารถส่งสัญญาณได้ไกลถึง 40 ไมล์ ด้วยความเร็ว 70 Mbps และมีความเร็วสูงสุด 100 Mbps นั่นเอง