หากเพื่อนๆกำลังมองหาหูฟังเพื่อมาใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือเครื่องเล่นเพลง คงจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจแน่นอนว่า เอ๊ะ!! เราจะซื้อหูฟังแบบไหน ชนิดไหนดี ที่จะเหมาะกับตัวเราที่สุด คุ้มค่าที่สุด ซื้อมาแล้วจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง เพราะในปัจจุบันนั้นมันก็มีซะหลากหลายยี่ห้อ หลายแบบ เหลือเกิน ดังวันนี้เว็บไซต์ itnews4u ของเราจะพาเพื่อนมาเจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องราวของหูฟังกันเลยว่า หูฟังนั้นหลักๆ เขาแบ่งออกเป็นกี่ประเภท ประเภทไหนเหมาะกับการใช้งานแบบไหน โทนเสียงแต่ละประเภทอยู่ในย่านเสียงไหน ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง เป็นต้น
ก่อนอื่นนั้นต้องบอกก่อนว่า หูฟังในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. แบบแยงหู (In-Ear)
2. แบบใส่หูธรรมดา (Earphone)
3. แบบสวมหัว (Headphone)
ประเภทของหูฟัง
1. หูฟังแบบแยงหู (In-Ear)
หูฟังแบบแยงหู (In-Ear) จะมีจุดเด่นคือตัวหูฟังจะลักษณะเป็นจุกยางนุ่มๆ ที่ใช้ในการเสียบเข้าไปในรูหูของเรา ซึ่งจุกยางของหูฟังเองก็จะมีหลากหลายขนาดให้เราได้เลือกใช้เพื่อความเหมาะสมของสรีระหูของแต่ละคน ซึ่งขนาดของหูฟังประเภทนี้จะมีขนาดเล็กที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ โดยโทนเสียงทั่วไปของหูฟังประเภทนี้นั้นจะมีคุณภาพเสียงอยู่ในระดับปลานกลางถึงระดับสูงเลยทีเดียว เรียกว่ามีเสียงต่างๆที่ครบในทุกย่านเลยก็ว่าได้ เช่น เสียงเบส เสียงแหลม ซึ่งถือว่าเหมาะกับเพื่อนๆที่ชอบฟังเพลงแนวเสียงออกทุ้มๆ ที่มีเบสเป็นส่วนประกอบ นั่นเอง
ข้อดี : ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาหูฟังแต่ละประเภท พกพาสะดวก ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี ทำให้เราสามารถได้ยินเสียงต่างๆในเพลงได้ละเอียดขึ้น
ข้อด้อย : เนื่องจากหูฟังประเภทนี้นั้นมีลักษณะการใช้งานแบบแยงหูเข้าไป ซึ่งทำให้สัมผัสหูด้านในของเรามากที่สุด จนบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ยินเสียงภายใน ซึ่งหากเพื่อนๆนั้น ขับขี่ยานพาหนะแล้วใส่ไปด้วยอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง ควรระมัดระวังกันด้วยครับ
2. หูฟังแบบใส่หูธรรมดา (Earphone)
หูฟังประเภทนี้นั้นเหมาะกับเพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟัง ที่ใส่สบายๆ สวมง่ายๆ เพื่อใช้ดูฟนังฟังเพลงงโดยทั่วไป โดยไม่ซีเรียสเรื่องเสียงในย่านต่างๆมากนัก ซึ่งโดยธรรมชาติของหูฟังประเภทนี้นั้น จะมีเสียงออกโทน ปลานกลาง ถึง แหลม ซึ่งเหมาะแก่คนที่ชอบฟังเพลงแนวเสียงใสๆ ฟังสบายๆ ไม่เน้นเสียงเบส นั้นเองครับ
ข้อดี : หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงนัก ใส่สบายกว่าแบบ In-Ear เพราะไม่ต้องเอายัดหูเข้าไป
ข้อด้อย : คุณภาพเสียงนั้นอยู่ในระดับกลางๆ เพราะส่วยมากหูฟังประเภทนี้จะขับเสียงทุ้มได้น้อยมากๆ
3. หูฟังแบบสวมหัว (Headphone)
หูฟังประเภทนี้นั้นต้องขอบอกว่าเป็นหูฟังที่เกิดมาเพื่อการคำนึงสึงเสียงในการฟังเพลงโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ และด้วยลักษณะที่ใหญ่กว่าหูฟังประเภทอื่นๆ หูฟังแบบสวมหัว (Headphone) จึงสามารถแสดงรายละเอียดของเสียงได้ดีกว่านั่นเอง ซึ่งหูฟังประเภทนี้นั้นจะมีย่านเสียงต่างๆ แทบจะครบทุกด้านเลยก็ว่าได้ จึงเหมาะกับเพื่อนๆที่ต้องการหูฟังที่นำมาใช้ฟังเพลงโดยเฉพาะ ซึ่งราคานั้นก็จะมีราคาสูงกกว่าหูฟังชนิดอื่นด้วย
ข้อดี : เรื่องเสียงนั้นชนะเลิศ ฮาร์มอนิกของเสียงที่ครบถ้วนมากที่สุด
ข้อด้อย : ขนาดใหญ่ พกพายาก ใช้พลังงานเยอะที่สุดในบรรดาหูฟังประเภทต่างๆ ราคาค่อนข้างสูง